วันที่ 12 ม.ค. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศคำพูดจาก pg เว็บตรง. 2568 ว่า รัฐบาลจะมีเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 68 เป็นวงเงิน 3.59 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% จากปีงบประมาณ 67 ที่มีวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท
โดยยังเป็นการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลการคลัง 6.92 แสนล้านบาท และมีประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิ 2.899 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.0% และให้ความสำคัญด้านนโยบายด้านเศรษฐกิจครอบคลุม 8 กลุ่มย่อย คือ พลังงาน เกษตร ท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน การดึงดูดการลงทุน การทูตเชิงรุกและการค้าชายแดน ซอฟต์พาวเวอร์ และค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งเป้าหมายยังชัดเจนเหมือนเดิม เศรษฐกิจประเทศไทย 4 ปี ต้องโตเฉลี่ย 5% ให้ได้
ทั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานยึดตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเป็นหลัก นโยบายที่ดำเนินการภายใต้รัฐบาลนี้ ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนสบายใจได้ว่า เงินภาษีถูกใช้ในการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ ทุกคนทราบว่าหนึ่งในนโยบายเรือธงของรัฐบาลนี้ คือการทำโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตให้สำเร็จ
แม้ว่าในวันนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าออก พ.ร.บ.กู้เงินก็ตาม แต่ก็ขอให้ไม่ลืมที่จะตั้งงบประมาณเผื่อไว้ ในกรณีที่ต้องใช้พัฒนาและดำเนินโครงการด้วย แต่ขอให้ตั้งอย่างสมเหตุสมผล โดยปีงบประมาณ 2568 การใช้จ่ายภาครัฐจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐบาลทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม ต้องขอให้สำนักงบประมาณ ช่วยคอยดูทั้งตัวชี้วัดงบประมาณที่ขอเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และต้องดูรายละเอียดเนื้อหาให้ถี่ถ้วนด้วยว่า ตอบโจทย์ของรัฐบาลหรือไม่ ในปีงบประมาณ 68 จะเป็นการดำเนินการที่ต่อเนื่องจากปี 67 โดยช่วงเวลาการทำงานจะทับซ้อนกัน จึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการ เพื่อผลักดันให้การจัดทำงบประมาณตอบโจทย์ความต้องการ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด
ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยงานสามารถจัดทำคำของบประมาณที่สอดคล้องกับจุดเน้นตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 142 ประเด็น สำนักงบประมาณ จึงอยู่ระหว่างนำเสนอ ครม. เพื่อปรับปรุงปฏิทินงบประมาณ โดยขยายระยะเวลาการจัดส่งคำขอได้ถึงวันที่ 2 ก.พ. 67